Skyller ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มภาคอุตสาหกรรมด้วย AI และโดรน โดย ARV

เทรนด์เทคโนโลยี AI และ Robotics ได้รับความสนใจและมีการนำมาใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในภาคธุรกิจและชีวิตประจำวัน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในองค์กร นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานแล้ว ยังสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ และนำไปสู่การพัฒนาเมืองและประเทศให้ไปต่อได้ไกลยิ่งขึ้น

อีกหนึ่งก้าวสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของไทย “Skyller” ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันโดยนำ AI และ Machine Learning มาใช้งานร่วมกับโดรนและหุ่นยนต์ มุ่งเน้นการแก้ Pain Point ของธุรกิจในเชิงอุตสาหกรรม

Skyller เป็นกลุ่มธุรกิจภายใต้ บริษัท AI and Robotics Venture (ARV) เป็นบริษัทลูกของ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ปตท. สผ. (PTTEP) ซึ่งมุ่งหวังจะเป็นผู้นำด้าน AI และ Robotics ของไทย

ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมทั้งในกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียม ปิโตรเคมี การสื่อสาร การก่อสร้าง และพลังงาน ยังคงใช้การตรวจสอบ ซ่อมบำรุงพื้นที่และอุปกรณ์ โดยการให้ผู้ตรวจสอบเข้าถึงหน้างาน (on-site) ที่หลายครั้ง หน้างานมีสภาวะที่มีความเสี่ยงอันตรายสูง

ตัวอย่างเช่น การตรวจสอบหอเผาไหม้ก๊าซส่วนเกิน (Flare) ที่ปกติต้องทำการปิดการใช้งานชั่วคราว ก่อนให้ผู้ตรวจสอบปีนบันไดที่อยู่ข้างเสาขึ้นไปตรวจสอบ สภาวะแวดล้อมเต็มไปด้วยไอพิษจากการเผาไหม้ สารไวไฟ สารอินทรีย์ระเหยง่าย สารไฮโดรคาร์บอน และลมแรงที่สร้างความเสี่ยงต่อผู้ตรวจสอบที่ปีนขึ้นไปยังปากปล่องที่อยู่สูงขึ้นไปเท่ากับตึก 4 ถึง 5 ชั้น พร้อมอุปกรณ์ตรวจสอบที่มีน้ำหนัก หรือหากมีงบประมาณ อาจใช้เฮลิคอปเตอร์และช่างกล้องเพื่อเก็บภาพ

อีกตัวอย่างหนึ่งคือการตรวจสอบถังเก็บเม็ดพลาสติกหรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมขนาดใหญ่ (Silo) ที่ต้องตั้งนั่งร้านและใช้การโรยตัว เพื่อสำรวจการเสื่อมสภาพหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ในส่วนต่างๆ บนพื้นที่ผิว กระบวนการตรวจสอบเช่นนี้ ใช้เวลานาน มีค่าใช้จ่ายสูง และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ไม่ว่าจะมีกระบวนการป้องกันมากเพียงใดก็ตาม

Skyller ให้บริการอากาศยานไร้คนขับ (UAV) หรือ โดรน และหุ่นยนต์รูปแบบอื่นๆ ที่เหมาะสมกับพื้นที่สำรวจ ในการถ่ายภาพและวิดีโอความละเอียดสูงของทรัพย์สิน-โครงสร้างพื้นฐานในงานอุตสาหกรรม สามารถติดเซนเซอร์อื่นๆ ที่สามารถติดตั้งเพิ่มเติม เช่น ตัววัดความร้อนด้วยรังสีอินฟราเรด ซึ่งเหล่านี้เป็นบริการที่มีผู้ให้บริการอยู่แล้วหลายเจ้าในตลาด ความพิเศษของ Skyller คือการเชื่อมต่อโดรนเข้าแพลตฟอร์มที่ใช้ AI และ Machine Learning ที่สามารถจัดการ วิเคราะห์ข้อมูล และสรุปผลรายงานได้อย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์หลัก มีดังนี้

  • Resource and Project Management ระบบช่วยจัดการโปรเจกต์ บริหารงานและทีมปฏิบัติงาน วางแผน ติดตามการทำงานให้ได้ตามวัตถุประสงค์ และ Timeline
  • Data Visualization and Analysis หลังจากที่โดรนส่งข้อมูลภาพถ่ายหรือวิดีโอจากการสำรวจแล้ว ระบบ AI และ Machine Learning จะทำการประมวลผลวิเคราะห์ภาพที่มีมากกว่า 2,000 ภาพต่อการสำรวจ 1 ครั้ง ซึ่งปกติพนักงานเวลาตรวจสอบถึง 2 อาทิตย์ ระบบสามารถประมวลผลเสร็จได้ภายในเวลา 2 วัน เพื่อตรวจหาสิ่งผิดปกติและวิเคราะห์จุดต่างๆ เช่น รอยแตกร้าว การรั่วไหลของสารเคมี การตรวจวัดอุณภูมิความร้อนเพื่อตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ และป้องกันอุบัติเหตุ ตรวจสอบความเคลื่อนไหว เพื่อรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงต่อการบุกรุก การวิเคราะห์และคาดการณ์ปริมาณของหิน ทราย และวัสดุต่างๆ ที่ใช้ในการก่อสร้าง
  • Report and Data Integration สรุปผลและนำเสนอการประมวลผลข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบกับข้อมูลสำรวจในครั้งก่อน สามารถส่งออกเพื่อนำไปวิเคราะห์เพิ่มเติม ประมาณการล่วงหน้า และแจ้งเตือนในการตรวจสอบครั้งต่อไปได้

แพลตฟอร์มและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ของ Skyller ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดเวลาการทำงาน และที่สำคัญ ลดความเสี่ยงอันตรายในการลงพื้นที่ของพนักงาน และยังใช้งานง่ายผ่านระบบคลาวด์ สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมกันได้หลายคน ทำให้การประสานงานและการดำเนินงานในองค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเติบโตอย่างยั่งยืน

จากจุดเริ่มต้นในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ ปตท.สผ. ซึ่งทำให้เกิดเป็นคลังความรู้ในระบบ Machine Learning ของแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่ง เพราะได้รับ input จากผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ และสามารถต่อยอดไปสู่การให้บริการเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น ระบบโทรคมนาคม โครงการก่อสร้าง ระบบโซลาร์ฟาร์ม การบริหารอสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่ในการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น การสำรวจปัญหาปะการังฟอกขาวตามแนวชายฝั่งโดยใช้โดรน ผนวกกับเทคโนโลยีเซ็นเซอร์อื่นๆ เช่น กล้องจับความร้อน LiDAR Ultrasonic การตรวจสอบป้องกันไฟป่า พร้อมคำสั่งแจ้งเตือนและระบบสร้างแนวกันไฟ เป็นต้น

และอีกหลากหลายความเป็นได้จากการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี AI และ Robotics ที่จะพัฒนาความแม่นยำและความสามารถเพิ่มขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ได้รับการเรียนรู้มากขึ้น

Skyller ไม่หยุดที่จะพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ โดยพร้อมร่วมมือกับพันธมิตรในหลากหลายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรมอื่นๆ ในการช่วยแก้ปัญหา ลดความเสี่ยง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจร่วมกันและเติบโตไปอย่างยั่งยืน

ผู้ที่สนใจโซลูชันของ Skyller สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทันทีที่หน้าเว็บไซต์ของ Skyller

Share your love